การติดตั้งเครื่องปั่นไฟ

9 ข้อที่ควรพิจารณาเมื่อติดตั้งเครื่องปั่นไฟ

ในปัจจุบันโลกที่เจริญเติบโตทางเทคโนโลยีมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆตั้งแต่เครื่องใช้ในบ้านขนาดเล็กในชีวิตประจำวันไปจนถึงเครื่องจักรกลหนักสำหรับการขุดเหมืองแร่ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการใช้ไฟฟ้า จากที่รัฐบาลท้องถิ่นจัดหาให้ โดยมักมีการขัดข้องของไฟฟ้ามีหลายรูปแบบ (เช่นไฟดับและไฟตก) มีสาเหตุหลายประการ (เช่นเกิดจากพายุที่มีกำลังแรงและปัญหาในความสามารถในการจ่ายไฟฟ้าของระบบไฟฟ้าโดยหน่วยงานท้องถิ่น)

ซึ่งในปัจจุบันเครื่องปั่นไฟมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมจนทำให้จำเป็นมากกว่าเป็นเพียงตัวเลือกเสริม

· สามารถใช้เทคโนโลยีลิงค์มือถือเพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องปั่นไฟแม้ว่าอยู่ห่างจากตัวเครื่อง

· เครื่องปั่นไฟส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง โดยจะทำงานทันทีที่ไฟดับและดับลงเมื่อแหล่งจ่ายไฟหลักกลับมา

· สามารถเลือกเครื่องปั่นไฟที่ใช้เชื้อเพลิงตามต้องการได้เช่นน้ำมันเบนซินดีเซลก๊าซ LP หรือก๊าซธรรมชาติ

· เครื่องปั่นไฟบางรุ่นสามารถควบคุมจากระยะไกลได้

· สามารถเลือกระดับพลังงานได้ตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้านหรืออุตสาหกรรม

เครื่องปั่นไฟมีหลายขนาด ยี่ห้อและประเภท โดยสามารถหาซื้อก็ได้ทุกเมื่อ แต่นั่นจะไม่ตอบสนองความต้องการได้อย่างเหมาะสม

7 ข้อที่ควรพิจารณาก่อนและหลังตัดสินใจติดตั้งเครื่องปั่นไฟ

ก่อนการติดตั้ง

แน่นอนต้องวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้ไม่มีปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ อาจต้องการอ่านหัวข้อนี้เพื่อดูจุดที่น่าคิด และานี่คือคำแนะนำสำหรับการวางแผนประสบความสำเร็จและตรงวัตถุประสงค์ที่สุด

1. ปรึกษาช่าง

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปั่นไฟสำหรับบ้านหรือซูเปอร์มาร์เก็ต เราไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเครื่องปั่นไฟขนาดหรือประเภทใดที่เหมาะด้วยตนเอง ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของช่างเทคนิคที่จะทำการสำรวจ คำนวณแรงดันไฟฟ้าที่แน่นอนและค่าไฟฟ้าทั้งหมดต่อชั่วโมงที่บ้านหรือบริษัทต้องการ เมื่อคำนวณแล้วเขาสามารถแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ ด้วยความช่วยเหลือและประสบการณ์ของเขาคุณมีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้

2. ความจุ

ความจุในที่กล่าวถึงคือจำนวนวัตต์ที่เครื่องปั่นไฟผลิตได้ ในทฤษฎีคืออัตราที่พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าถูกแผ่ ดูดซับหรือกระจายออกไป

แนวคิดทั่วไปและคร่าวๆ หากคุณใช้หลอดไฟสองสามดวง พัดลมสองหรือสามตัวและช่องแช่แข็งจะต้องมีกำลังการผลิต 5–10 กิโลวัตต์ ยิ่งคุณต้องการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ามากเท่าไรกำลังของเครื่องปั่นไฟมากเท่าไหร่คุณก็จะต้องการความจุมากขึ้นเท่านั้น

3. เชื้อเพลิง

สิ่งแรกที่ควรรู้เกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ใช่เพียงแค่ต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องปั่นไฟให้เต็มเท่านั้น แต่ต้องมีเชื้อเพลิงสำรองไว้ที่บ้านเผื่อไฟดับเป็นระยะเวลานาน

โดยทั่วไปสามารถใช้น้ำมันดีเซลเบนซิน ก๊าซ LP และก๊าซธรรมชาติ

3.1 ดีเซล: เป็นเชื้อเพลิงที่นิยมใช้กันมากที่สุดสำหรับเครื่องปั่นไฟ มีความผันผวนน้อยกว่าน้ำมันเบนซินและผลิตพลังงานได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีจำหน่ายทั่วโลกมากกว่าน้ำมันเบนซิน

3.2 น้ำมันเบนซิน: ตามที่ระบุไว้ข้างต้นมีความผันผวนสูงจึงใช้น้อยลง คุณไม่สามารถเก็บไว้ในแกลอนได้นานหลายเดือนเพราะมันจะระเหยได้ง่ายในอุณหภูมิปกติ

3.3 ก๊าซ LP ชื่อทางเคมี โพรเพน สามารถจัดเก็บได้ง่ายมากและคุณสามารถเตรียมไว้ 100–200 แกลลอนให้พร้อมสำหรับเครื่องปั่นไฟ นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องการเผาไหม้พลังงานที่สะอาด

ข้อเสียเพียงเล็กน้อยคือให้พลังงานน้อยกว่าดีเซล

เมื่อพิจารณาถึงข้อดีหลักๆอื่น ๆ ทำให้สามารถเลือกได้ง่ายขึ้น

3.4 ก๊าซธรรมชาติ: แม้ว่าจะอยู่ในอันดับที่สี่ แต่นี่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องปั่นไฟของคุณ

โดยการก๊าซนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติใด ๆ และคุณสามารถจ่ายเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่องให้กับเครื่องปั่นไฟได้ไม่ว่าไฟดับจะอยู่ในช่วงใด นอกจากนี้ยังเผาไหม้ได้สะอาดเหมือนก๊าซ LP

ดังนั้นนี่อาจเหมาะที่จะเป็นตัวเลือกแรกได้

ขณะติดตั้ง

หากคุณวางแผนที่จะติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วยตัวเองให้พิจารณาประเด็นต่อไปนี้:

4. การเชื่อมต่อไฟฟ้า

นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพหรือมือใหม่คุณต้องตรวจสอบสายไฟโดยเฉพาะบริเวณที่จะเชื่อมต่อกับเครื่องปั่นไฟ ต่อมาคือสวิตช์อัตโนมัติหรือแบรกเกอร์ ที่ทำหน้าที่ตรวจจับการตัดไฟและเปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ

สุดท้ายอาจมีแผงแบรกเกอร์อื่นที่จะควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องปั่นไฟ และทำการตรวจสอบว่าเครื่องปั่นไฟทำงานโดยอัตโนมัติหรือไม่ หลังจากสวิตช์แรกถ่ายโอนภาระไปยังเครื่องปั่นไฟ

5. การเติมเชื้อเพลิง

หากคุณใช้ก๊าซ LP หรือก๊าซธรรมชาติสำหรับเครื่องปั่นไฟ สายยางที่จะใช้ในการจ่ายเชื่อเพลิงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น จะเป็นปัญหาหากพบข้อผิดพลาด ในช่วงที่จำเป็นต้องใช้

6. ใบอนุญาต

ในบางพื้นที่คุณต้องได้รับอนุญาตให้ใช้หรือติดตั้งเครื่องปั่นไฟข้างสายไฟหลัก ในกรณีนั้นอาจมีการตรวจสอบ

เนื่องจากบ้านบางหลังอาจพื้นที่อาจจะไม่รองรับเครื่องปั่นไฟติดตั้ง บางครั้งอาจต้องการได้รับอนุญาตก่อน

7. การเลือกขนาดของเครื่อง

นี่เป็นอีกจุดสำคัญที่ต้องพิจารณา เครื่องปั่นไฟส่งเสียงดังและมีควันจำนวนมาก ในกรณีที่ใช้น้ำมันดีเซลควันเป็นสิ่งที่อันตรายต่อคนในบ้านสำนักงาน

โดยต้องเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยซึ่งคุณสามารถปิดเสียงและส่งควันออกไปได้

หลังการติดตั้ง

8. การบริการและการบำรุงรักษา

การบำรุงรักษาและการซ่อมบำรุงตามปกติของเครื่องปั้นไฟสามารถศึกษาผ่านคู่มือที่มาพร้อมกับเครื่องปั่นไฟโดยจะอธิบายและแนะนำคุณอย่างละเอียดว่าต้องทำอย่างไรและเมื่อใด และประเด็นทั่วไปที่ควรพิจารณาคือ

8.1 ตรวจสอบอุปกรณ์และสภาพแวดล้อมและตรวจสอบว่าปราศจากเศษสิ่งของมีคมและสัตว์ต่างๆ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่คาดคิด

8.2 ตรวจสอบน้ำมันเครื่องและไส้กรองเป็นประจำ คู่มือควรบอกระยะเวลา

8.3 ตรวจสอบน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเครื่องปั่นไฟดีเซล วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดจากการเติมน้ำมันในช่วงที่ไฟดับซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยาก

8.4 ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น ถึงแม้โอกาสที่เครื่องปั่นฟ้าจะถึงระดับความร้อนขั้นวิกฤตน้อย แต่มันก็ทำให้ต้องเสียเงินจำนวนมากในการซ่อม

8.5 ทำการตรวจเช็คด้วยตัวเองบ่อย ๆ ซึ่งหมายความว่าเมื่อเครื่องปั่นไฟของคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลาหลายเดือน เครื่องจักรอาจมีปัญหาเมื่อไม่ได้ถูกใช้งานเป็นเวลานาน ดังนั้นต้องทดสอบว่ายังสามารถทำงานและเครื่องจักรยังแข็งแรงอยู่หรือไม่

8.6 การเปลี่ยนหัวเทียนและการเปลี่ยนไส้กรองอากาศและเชื้อเพลิงเป็นงานประจำ

เพิ่มเติม

9. เครื่องปั่นไฟขนาดที่ใหญ่

ต้องทำอย่างไร ควรหรือไม่ควร ต้องการการพิจารณาและเตรียมการเช่นเดียวกับเครื่องเล็ก โดยมององค์ประกอบหลักๆ 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องยนต์ ระบบทำความเย็นและเครื่องปั่นไฟ ที่มีข้อกำหนดในการจัดการดูแลที่ต่างกัน

หนึ่งในนั้นคือต้องมีทีมช่างหรือผู้ที่มีความรู้มาเพื่อดูแลและจัดการระบบในเครื่องปั่นไฟในบ้านของคุณให้มีขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน

สรุปสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด การติดตั้งเครื่องปั่นไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่ต้องมีเรียนรู้วิธีการใช้งานและการดูแลขั้นพื้นฐาน สามารถเข้าดูเครื่องปั่นไฟเพิ่มเติมได้ที่นี่